ตู้เซฟดิจิทัล vs. ตู้เซฟโบราณ ทั้งสองแบบแตกต่างกันอย่างไร?
ตู้เซฟ เป็นอุปกรณ์สำหรับจัดเก็บและช่วยปกป้องทรัพย์สินภายในบ้านให้ปลอดภัย มีคุณสมบัติเด่นเรื่องความแข็งแรง ทนทาน และมีระบบความปลอดภัยสูง ซึ่งในปัจจุบันตู้เซฟมีหลากหลายรูปแบบ ทั้งตู้เซฟดิจิทัลและตู้เซฟโบราณ ที่มีความแตกต่างทั้งเรื่องดีไซน์ และรูปแบบที่ใช้ในการปลดล็อก สำหรับคนที่ยังลังเลใจว่าจะเลือกแบบไหนดี มาดูข้อสรุปความแตกต่าง ตู้เซฟดิจิทัล vs. ตู้เซฟโบราณ แบบไหนถึงตอบโจทย์!
ตู้เซฟ อุปกรณ์สำคัญในการปกป้องทรัพย์สิน
ตู้เซฟ หรือกล่องนิรภัย ถูกออกแบบมาเพื่อป้องกันสิ่งของมีค่าจากเหตุการณ์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการโจรกรรม อัคคีภัย น้ำท่วม และความเสี่ยงต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้น โดยทั่วไปโครงสร้างของตู้เซฟทั้งแบบดิจิทัลสแกนลายนิ้วมือ หรือแม้แต่แบบโบราณ ต่างก็ถูกสร้างมาจากโลหะเนื่องจากต้องการทั้งความทนทาน ความแข็งแรง โดยมาพร้อมกับผนังเสริมแรงและกลไกการล็อกที่จำกัดการเข้าถึงโดยไม่ได้รับการอนุญาต
จุดเด่นทางลักษณะของตู้เซฟ
สามารถใช้ปกป้องทรัพย์สินได้ในหลายสถานที่
เพราะตู้เซฟสมัยนี้มีหลายประเภท หลายขนาด จึงทำให้สามารถนำไปใช้ในการปกป้องสิ่งของที่มีมูลค่าได้ในบริบทที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นตู้เซฟโบราณ ตู้เซฟสแกนลายนิ้วมือและรหัสดิจิทัลที่นิยมใช้ในบ้าน, ตู้เซฟโรงแรม ตลอดจนตู้ Super Safe ที่นำมาใช้งานกับตู้ ATM เป็นต้น
ทำจากวัสดุที่แข็งแรง
ด้วยการออกแบบเพื่อตอบสนองจุดประสงค์ในการเก็บสิ่งของที่มีมูลค่าโดยเฉพาะ ทำให้วัสดุที่ใช้ต้องมีคุณสมบัติที่แข็งแรงและทนทานเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นการทนต่ออุณหภูมิ ความร้อน การถูกไฟไหม้ ตลอดจนการงัดแงะด้วยวัสดุที่มีความแข็งสูง ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้วัสดุกลายเป็นจุดเด่นสำคัญในการเลือกใช้โซลูชันตู้เซฟเพื่อความปลอดภัย แทนที่จะจัดเก็บในตู้หรือลิ้นชักทั่ว ๆ ไปนั่นเอง
มีระบบรักษาความปลอดภัย
จุดเด่นข้อสุดท้ายที่ทำให้การใช้ตู้เซฟจัดเก็บสิ่งของมีราคา มูลค่าสูง กลายเป็นโซลูชันที่ตอบโจทย์ คือระบบรักษาความปลอดภัยที่เหนือกว่าอุปกรณ์การจัดเก็บอื่น ๆ ในทุก ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นระบบล็อกหมุนรหัสและกุญแจแบบดั้งเดิม ตลอดจนระบบล็อกอิเล็กทรอนิกส์อย่างตู้เซฟสแกนลายนิ้วมือและรหัสดิจิทัล เป็นต้น
ตู้เซฟดิจิทัล vs. ตู้เซฟโบราณ ต่างกันอย่างไร?
ตู้เซฟดิจิทัล
ตู้เซฟดิจิทัล ทำงานด้วยระบบล็อกแบบอิเล็กทรอนิกส์หลายชั้น โดยจะใช้แบตเตอรี่ในการทำงาน ซึ่งปัจจุบันตู้เซฟดิจิทัลก็จะมีอยู่ด้วยกัน 3 รูปแบบได้แก่
ตู้เซฟดิจิทัลแบบปุ่มกด มาในรูปแบบการดีไซน์ที่มีปุ่มกด โดยจะใช้การป้อนรหัสที่คล้าย Pin ในโทรศัพท์ลงไปเพื่อปลดล็อก สามารถใส่ได้ตั้งแต่ 4-10 หลัก เหมาะสำหรับผู้ใช้งานที่มีการเปิดปิดบ่อย
ตู้เซฟดิจิทัลแบบสแกนลายนิ้วมือ ยกระดับการจัดเก็บของให้มีความปลอดภัยที่สูงมากขึ้น ด้วยตู้เซฟสแกนลายนิ้วมือที่ตอบโจทย์การเก็บของที่มีราคาสูง ทั้งเพชร แหวน ทอง เครื่องประดับมีมูลค่า โดยสามารถจดจำลายนิ้วมือได้ถึง 100 รูปแบบ เหมาะสำหรับคนที่มองหาโซลูชันความปลอดภัยสูง แต่ใช้งานได้ง่าย
ตู้เซฟดิจิทัลแบบสัมผัส มีลักษณะการใช้งานใกล้เคียงกับตู้เซฟแบบปุ่มกด เพียงแต่หน้าจอจะเป็นระบบสัมผัส โดยจะมีการให้ใส่รหัสตัวเลข ความยาวก็จะขึ้นอยู่กับรุ่นตู้เซฟนั้น ๆ มีจุดเด่นคือการใช้งานที่สะดวก ปลอดภัย ใช้งานง่าย
ตู้เซฟโบราณ
ตู้เซฟโบราณจะแตกต่างจากตู้เซฟดิจิทัลที่ความสะดวกสบาย เพราะระบบล็อกจะถูกใช้เป็นแบบ Manual อย่างการหมุนรหัสประกอบการเสียบกุญแจเพื่อเปิดประตูตู้เซฟ ซึ่งนับเป็นวิธีการปลดล็อกดั้งเดิมที่ค่อนข้างจะใช้เวลา เพราะต้องหมุนตัวเลขให้ลงล็อกแบบถูกต้องทุกหลักนั่นเอง โดยประเภทของตู้เซฟธรรมดาที่คุ้นเคยนั้น มีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 3 รูปแบบ ได้แก่
ตู้เซฟนิรภัยแบบหมุนรหัสและกุญแจ เป็นตู้เซฟใช้ในบ้านที่ล็อกได้ทั้งกุญแจและการหมุนรหัส
ตู้เซฟนิรภัยแบบ Super Safe มีลักษณะคล้ายกับตู้เซฟแบบหมุนรหัสทั่วไป เพียงแต่จะมีน้ำหนักที่มากกว่า และบางรุ่นก็จำเป็นต้องใช้กุญแจมากถึงสองดอกในการเปิด ทำให้มีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น และนิยมนำไปใช้กับตู้ ATM นั่นเอง
ตู้เซฟนิรภัยแบบบานประตูเซฟ ตู้เซฟบานประตูใช้ทั้งกุญแจและการหมุนรหัสเช่นเดียวกัน เพียงแต่จะเป็นตู้เซฟธรรมดาที่มีขนาดใหญ่มากที่สุด อีกทั้งยังเป็นแบบเคลื่อนย้ายไม่ได้เพราะสร้างติดกับห้อง จึงเหมาะสำหรับการใช้ในสถานที่ที่ต้องการความปลอดภัยสูงอย่าง ร้านขายทอง ร้านอัญมณี หรือธนาคาร เป็นต้น
สรุปแล้ว ตู้เซฟแบบไหนที่เหมาะกับคุณ?
กลุ่มผู้ใช้งานทั่วไป เน้นเก็บของมีค่าในที่พักอาศัย
สำหรับผู้ใช้งานที่เน้นการจัดเก็บของมีค่าเอาไว้ในที่พักอาศัย เช่น เครื่องประดับ พาสปอร์ต สูติบัตร เงินสด และเอกสารสำคัญต่าง ๆ ที่ต้องการเก็บไว้ให้มิดชิดและปลอดภัย นี่คือลักษณะตู้เซฟที่ตอบโจทย์คุณ
ตู้เซฟแบบดิจิทัล โดยสามารถเลือกทั้งแบบปุ่มกด, แบบสัมผัส และแบบสแกนลายนิ้วมือ ทั้งนี้ ยังขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งานของแต่ละบ้านด้วย
ควรเลือกตู้เซฟที่รับประกันว่าปลอดภัย มีระบบป้องกันการลักขโมยได้อย่างรัดกุม และสามารถป้องกันอัคคีภัยได้อย่างอุ่นใจ
กลุ่มผู้ประกอบการ สำหรับใช้ในสำนักงาน
สำหรับผู้ประกอบการที่มองหาโซลูชันช่วยรักษาความปลอดภัย เพื่อใช้ในการเก็บเอกสารสำคัญและเงินสดที่จำเป็นจะต้องเอาไว้ในสำนักงาน นี่คือลักษณะตู้เซฟที่ตอบโจทย์คุณ
สามารถใช้ได้ทั้งตู้เซฟโบราณแบบหมุนรหัส และตู้เซฟแบบดิจิทัล โดยแนะนำให้เป็นแบบสแกนนิ้ว ซึ่งมีความปลอดภัยในการยืนยันสิทธิ์เข้าถึงได้มากกว่า
ควรเลือกตู้เซฟที่ออกแบบมาเพื่อป้องกันของมีค่าจากทุกปัจจัยเสี่ยง มีระบบป้องกันความปลอดภัยสูง และสามารถทนไฟ ทนความร้อนได้ดี
กลุ่มธุรกิจเกี่ยวกับธุรกรรมการเงินและทรัพย์สินมีค่า
กลุ่มธุรกิจธนาคาร สถาบันการเงิน และโรงรับจำนำ ถือเป็นธุรกิจที่มาพร้อมกับความคาดหวังให้มีมาตรฐานความปลอดภัยด้านการเก็บเงินและทรัพย์สินมีค่าแบบสูงสุด ดังนั้น ตู้เซฟที่ตอบโจทย์จึงต้องมาพร้อมกับระบบความปลอดภัยที่มีมาตรฐานสูง มีขนาดใหญ่ ตอบโจทย์ต่อวัตถุประสงค์ในการใช้งาน
เหมาะกับตู้เซฟนิรภัยแบบบานประตูเซฟ เพราะเป็นแบบที่สร้างติดกับห้อง ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ และมีขนาดใหญ่มากพอที่จะเก็บรวบรวมของมีค่าเอาในที่เดียว
อาจเลือกแบบระบบล็อกสองชั้น เพื่อช่วยเพิ่มความแน่นหนา ป้องกันความเสี่ยง และจำกัดสิทธิ์ในการเข้าถึงอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาละเอียดอ่อนที่มีอัตราการถูกโจรกรรมสูง
มองหาตู้เซฟดิจิทัลเพื่อเก็บทรัพย์สินมีค่า เลือกซื้อได้ที่ KIOSK ศูนย์รวมตู้เซฟหลากหลายขนาดในราคาโรงงาน มีตู้เซฟแบบสแกนลายนิ้วมือ มาพร้อมความแข็งแรงทนทาน กันไฟ และมีเสียงเตือนเมื่อถูกงัด เพื่อเพิ่มความปลอดภัยอย่างเหนือชั้น ตู้เซฟ KIOSK ทุกรุ่น มาพร้อมฟังก์ชันเสียงเตือนกรณีเซฟถูกงัดหรือกระแทก และผ่านการทดสอบได้รับ ETL Certified Fireproof Test ด้วย UL 72 Standard สามารถกันไฟได้นานถึง 1 ชั่วโมง จากสถาบัน Intertek (สถาบันทดสอบระดับโลก) เพื่อความปลอดภัยที่มากขึ้น สั่งซื้อสะดวกผ่านทางออนไลน์ จัดส่งฟรีทั่วไทย สามารถเข้ามาเลือกชมสินค้าและโปรโมชันเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ของเรา สอบถามข้อมูลหรือสั่งซื้อได้เลยที่เบอร์ 02-157-1015 และ LINE Official @kioskthailand